จากคำโฆษณา การทำตลาด และปากต่อปากกันมาว่า Public Cloud นั้น "คุ้มค่ากว่า หยืดหยุ่นกว่า คงทนกว่า ปลอดภัยกว่าและช่วยลดปัญหาต่างๆ ได้มากกว่า" ใครๆ ก็บอกกันแบบนี้ ถ้าเอาตามตรงแล้วผมก็ว่า มันก็จริง! ถ้าเข้าใจและเลือกใช้ได้อย่างถูกต้องถูกวิธี กลับกันมันอาจจะเป็นฝันร้ายของพนักงานและระบบ IT เลยก็เป็นได้
เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในสถานะผู้บริโภคด้านเทคโนโลยี ดังนั้นการที่เทคโนโลยีจะมาถึงมือเราช้าสักหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ดีซะด้วยซ้ำที่มีคนลองผิดลองถูกและพัฒนาแก้ไขให้ดีก่อนที่เราจะถึงมือเรา สำหรับเรื่อง Cloud Computing ไม่ว่าจะเป็น Private, Public หรือ Hybrid ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงตกผลึกจากฝั่งผู้ให้บริการเป็นหลัก หาใช่ฝั่งผู้บริโภค ผู้ให้บริการที่ว่าไม่ได้หมายถึง Amazon, VMware หรือ Microsoft แต่เป็น SI หรือ Cloud Solution/Consultant Provider ภายในบ้านเราเอง ถือเป็นการบ้านที่หนักพอควรในการจะหยิบเอา Product และ Service มาซ้อน Service ที่มีมากมายใน Public Cloud มาสรรค์สร้างเป็น Solution ต่างๆ ให้สำหรับองค์กรเลือกใช้ได้อย่างทั่วถึงและลงตัว
Cloud Computing เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยเราได้จริงๆ หรือเป็นเพียงแค่เรื่องใหม่ที่บริษัทต้องการขายเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า การใช้งาน Cloud กรือ Virtual Data Center หรือ Service ต่างๆ ใน Public Cloud นั้นทำได้ง่ายมากมีเพียงเครดิตการ์ดแค่ 1 ใบที่วงเงินไม่เต็มก็เริ่มใช้งานได้แล้ว ไม่ต้องออกแบบ สร้าง ซ่อม เปลี่ยน physical hardware อีกต่อไปหรือคงเหลือน้อยมาก จะเห็นได้ว่าระบบลงมาหาเงินได้ใกล้ตัวคุณมากขึ้น จากแต่ก่อนที่ผู้บริโภคโดยมากคือกลุ่มบริษัท ต้องส่งคนเข้าไปอธิบาย product, feature หลายขั้นตอนกว่าจะได้ตกลงซื้อขายกันจริง แต่คำถามอยู่ที่ว่าใช้ยังไง? ได้ประโยชน์อะไร? จะเอาอะไรไปใช้งานในนั้น? เลือก CSP เจ้าไหน? ต้องเตรียมอะไรบ้าง? ประโยชน์ของ Public Cloud นั้นจะเกิดขึ้นและเด่นชัดมาก เมื่อมีการบริหารจัดการและการวางแผนการใช้งานร่วมกับ Private Cloud และ Non Cloud ในระยะยาวที่ดี เพื่อก่อให้เกิด IT Innovation อย่างแท้จริงกับองค์กร รับรองว่าผลลัพท์ที่ได้มันจะมากกว่าที่จินตนาการไว้เสียอีก
หากให้เข้าใจได้โดยง่ายว่าถึงเวลาที่เราต้องใช้ Public Cloud หรือยัง ก็ให้ลองนึกถึงว่าเรากำลังหาสถานที่สำหรับให้พนักงานของเรามานั่งทำงาน เราเป็นองค์กรเปิดใหม่ที่มีพนักงานไม่มากนัก หรือเป็นองค์กรที่เปิดมาระยะหนึ่งแล้วมีจำนวนพนักงานมาก และต้องการที่ขยายสถานที่เดิมเพราะไม่มีที่นั่งเหลือแล้ว ไม่ว่าจะเพิ่งเปิดหรือขยายเพิ่ม เราต้องเลือกว่าจะเช่าหรือสร้างออฟฟิศขึ้นเอง หรือจะผสมผสานทั้งสองแบบเพื่อความลงตัวและหยืดหยุ่นมากกว่า แน่นอนมีเหตุผลอย่างอื่นอีกด้วย
สถานที่ทำงานต้องมีโต๊ะ เก้าอี้ แอร์ ห้องน้ำ ลิฟท์ ทางหนีไฟ ระบบความปลอดภัย ฯลฯ เปรียบเสมือนระบบ IT ที่ต้องมี Server, Network, Storage, และ Security เราจะสร้างออฟฟิศใหม่เองทั้งหมดหรือจะเช่าแล้วเติมเฉพาะบางส่วนที่ต้องการ จุดเริ่มต้นมันอยู่ตรงนี้เอง เราจะสร้างห้อง Data Center ขึ้นเองหรือจะเช่าใช้เป็น Virtual Data Center?
สร้าง Data Center เอง = ซื้อที่ดินสร้างออฟฟิศเอง
สมัยนี้ออฟฟิศให้เช่ามีอยู่ถม ตั้งแต่ราคา 10K ไปถึงเดือนละ 1M แบบเช่าทั้งตึก หรือบางเจ้ามีทุนจะสร้างตึกเองก็ไม่ว่ากัน แต่ก็ต้องลงทุนสูง ทั้งเวลา เงิน และการดูแลบริหารจัดการภายใน ไม่ต่างอะไรกับห้อง DC ที่สมัยก่อนยังไงก็ต้องสร้างเอง เพราะไม่มี Public Cloud (Virtual Data Center) หรือ High Speed Internet ให้ใช้กันทั่วไปแบบสมัยนี้
ห้อง DC มักเริ่มจากห้องเล็กๆ เปิดแอร์ 24 ชม. ไฟฟ้าห้ามดับ ไฟห้ามไหม้ คุณภาพมาตามเงินลงทุน เงินลงทุนเริ่มตั้งแต่หลักแสนไปถึงหลักสิบล้าน ใช้เวลาในการสร้างและมีค่าใช้จ่ายรายเดือนอย่างเช่นค่าไฟ และรายปีให้กับ MA และ Service ต่างๆ ผ่านไป 5 ปีก็ต้องเปลี่ยน Hardware เพราะ End-of-Life ซึ่งยังมี Cost และความเสี่ยงอื่นๆ อีกมาก แต่สิ่งที่จะได้คือ สามารถออกแบบเองได้และทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเรา ข้อมูลและระบบทุกอย่างควบคุมเองได้อย่างเบ็ดเสร็จ เลือก Product และ Solution มาเพิ่มศักยภาพของได้ตามต้องการ ลงทุนซื้อที่ดินเพื่อสร้างออฟฟิศยังไงก็ไม่หายไปไหนอย่างแน่นอนอย่างไรอย่างนั้น
ใช้ Virtual Data Center จาก CSP = สำนักงานให้เช่า
ขอแค่มีอินเตอร์เน็ตกับบัตรเครดิตก็ใช้ได้ทันที ลงทุนเริ่มต้นที่หลักหมื่นบาทไปจนถึงหลักล้านต่อเดือน เลือกขนาดเล็กใหญ่ได้ ขยายลดได้ไม่จำกัด CSP เป็นคนดูแลบริหารจัดการด้าน Physical, Risk, Technology และ Product ทั้งหมด รวมถึง Managed-Service อื่นๆ ให้ แต่เราไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินใดๆ เลย ยกเว้นข้อมูลที่อยู่ในระบบที่ปัจจุบันสามารถเข้ารหัสเก็บไว้ใน Cloud ได้รวมถึงมาตราฐานและ Compliance ต่างๆ ของระบบที่มั่นใจได้ว่าข้อมูลของเรานั้นอยู่ในที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามแต่ละ CSP มีความสามารถและประสิทธิภาพในด้านต่างๆ แตกต่างกันออกไป รวมถึงเรื่องราคาและ Data Center ที่อาจไม่ได้ตั้งอยู่ในประเทศไทย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราเลือกว่าจะใช้ CSP จากเจ้าไหน ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้แค่เจ้าเดียว และอาจะเป็นลูกผสม Hybrid เชื่อมต่อกับระบบ IT เดิมที่เรามีอยู่แล้ว หรือกำลังจะมีก็ได้ ยกตัวอย่างประมาณนี้คิดว่าน่าจะพอเห็นภาพนะครับ
จะเห็นว่าโดยภาพรวมและหลักการนั้นไม่ต่างอะไรกับการเลือกสถานที่ออฟฟิศ เราเลือกได้ว่าจะสร้างเองหรือเช่า แต่ละแบบมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ณ ช่วงเวลานั้นๆ ถ้าหากเลือกที่จะเช่าแล้วหล่ะก็ ขั้นตอนถัดไปก็คือการเลือกว่าจะไปเช่าที่ไหนให้เหมาะสมและเกิดคุ้มค่าต่อตัวเราและองค์กรมากที่สุดนั้นเองครับ
ความคุ้มค่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคานะครับ
ณัฐพล เทพเฉลิม
Blogger Comment
Facebook Comment