6. WireShark (Freeware)
โปรแกรม ส่องรูขุมขน packet ที่วิ่งเข้า-ออกเครื่องเรา ถือเป็นเป็นไพ่ตายสำหรับการ Troubleshooting แล้ว เพราะใช้ดูลึกไปถึงข้อมูลระดับ packet ว่าแต่ละ packet มีอะไรอยู่ด้านในบ้าง แล้ว State การคุยเป็นอย่างไร เช่น เราอยากรู้ ณ ขณะนี้มีอะไรวิ่งเข้า-ออกเครื่องเราบ้าง ก็ใช้โปรแกรมนี้เลือก interface นั้น มันจะแสดงทุกสิ่งให้เห็นเลย ถ้าเรามีการใส่ user/password แล้วส่งไปแบบไม่ encrypt ก็จะเห็เลยว่า text ที่เราไปนั้น ไปอยู่ในส่วนไหนของ packet และอีกหนึ่งตัวอย่างที่โปรแกรมนี้ช่วยผมก็คือ ตอนนั้นทำการ authentication ผ่าน https แต่ปรากฎว่า login ผ่านแต่โหลดหน้า page แรกไม่ขึ้น เลยลองใช้โปรแกรมนี้ dump ดูเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ผลคือเครื่องผมมันวิ่งออกไปหาปลายทางด้วย port TCP 8088 ด้วย เครื่องผมมันก็ส่ง sync ไปอยู่นั้นแหละ แต่ไม่มีอะไรตอบกลับมาเลย เนื่องจากอุปกรณ์ firewall ระหว่างทางมัน block ไม่ให้เรียก port แปลกๆ ออกไปด้านนอก ผมเลยเปลี่ยนเครื่องตัวเองไปใช้อีก IP Address ที่สามารถเรียกออกไปใช้ Port ด้านนอกได้ทุก Port แล้วลอง Authenticate อีกครั้ง โปรแกรมนี้จะแสดงให้เห็นเลยว่า เครื่องผม sync ออกไป แล้วก็มี sync-ack กลับมา ผมก็ ack กลับไปอีกที มันช่วยได้ Work!
7. NetSetMan (Freeware)
การ ไปทำงานที่นั้น ที่โน้น หลายๆที่ IP Address ไม่เคยจะซ้ำกัน ต้องเปลี่ยนทุกครั้ง เวลาเอาเครืองเราไปต่อเข้าระบบลูกค้า หรือบางทีอยู่ที่เดิมแต่ต้องเปลี่ยน IP เครื่องตัวเองกลับไปกลับมา จะเปลี่ยนแต่ละที่ก็ต้อง Open Network connection > right click > Properties > TCP/IP v4 > Properties ... แล้วค่อยใส่ IP Address, subnet ....... เสียเวลาและเฉยมากครับ มีเครื่องมือดีๆ ฉไหนเลย ไม่เอามาใช้
โปรแกรมนี้ช่วยได้ Set เป็น Profile ไว้ได้เลย จะเปลี่ยน IP, Subnet, Default Gateway, DNS1, DNS2 เพียงแค่ click เดียวเท่านั้น รองรับทำ Profile ได้ถึง 6 อัน แต่ข้อเสียก็คือมักจะต้องไป manual ลบ permanent default route ผ่าน CLI ด้วยคำสั่ง route delete 0.0.0.0 แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนครับ
8. Advanced IP Calculator (Freeware)
โปรแกรม นี้จะช่วยให้เราหา Network ID หรือ Range ของ IP Address ที่สามารถใช้งานได้ใน Network นั้นๆ เช่นว่า เราได้ IP Address 10.182.78.15 Subnet /19 มา และเราต้องการทำ Routing network นี้ ซึ่งจะต้องรู้ Network ID ก่อน จะมานั่งดูตารางหรือคำนวณมันก็เทห์อ่ะนะ แต่ในสถานการณ์กดดันหรือถ้าคำนวณผิดขึ้นมา จะกลายเป็นขี้เถ้าได้ ดังนั้นเพื่อความรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ โปรแกรมนี้เป็นคำตอบครับ หลายคนชอบโชว์ว่าตัวเองคำนวณได้ คำนวณเป็น แต่พอมันผิดขึ้นมา คิดผลเอาเองครับ
9. TeamViewer (Freeware)
เป็น โปรแกรมที่ทำให้เราเห็น Desktop และบังคับเครื่องปลายทางได้เลย โดยเครื่องเราและฝั่งปลายทางขอให้ต่อ Internet ได้เป็นพอ เพราะมันใช้งานผ่าน http/https ฉะนั้นแล้วระยะทางจึงไม่เป็นปัญหา เสมือนเราเข้าไปนั่งอยู่ข้างๆ ลูกค้า แก้ปัญหาแบบเห็นภาพและฝั่งปลายทางก็เห็นว่าเราทำอะไรไปบ้าง เป็นประโยชน์มากครับ เมื่อเราต้องการสอนและอธิบายให้กับผู้ฟังฝั่งปลายทางเข้าใจว่าเราจะทำอะไร หรือให้เขาสามารถทำเป็นเองได้ในอนาคต อีกอย่างก็คือบางทีเราไม่สามารถเข้าไปคุมอุปกรณ์ของระบบทางลูกค้าได้โดยตรง เราก็ Remote ไปหน้าเครื่องลูกค้าเลย เป็นการ safe ตัวเองด้วย ว่าเราไม่ได้ไปแอบทำอะไรหลังบ้านเขา โปรแกรมนี้มีข้อด้อยคือ ตัวโปรแกรมมีระบบตรวจจับ IP Address ของฝั่งต้นทางหรือเครื่องเรานี้หล่ะ ว่าเป็น IP Address Commercial หรือเปล่า เช่น Static IP Address ของบริษัท เป็นต้น มันจะตัด session ทุกๆ 5 นาทีและต้องรออีก 2-3 นาทีกว่าจะต่อีกทีได้ ด้วยเหตุผลที่ Freeware for personal usage แต่ผมก็มีวิธีหลบของผมครับ โดยการ remote desktopไป colo server ก่อน แล้ว TeamViewer ต่อไปอีกที ภาษาที่ใช้เรียกโปรแกรมนี้เวลาจะใช้กับลูกค้า ก็คือ "TeamViewer ได้ไหมพี่?" อีกอย่างที่สะดวกก็คือ มันมีระบบ account ที่เราสามารถ save ID ของเครื่องปลายทางได้ ซึ่งผมยังไม่เคยเห็นว่า ID จะเปลี่ยนเลย ถ้าไม่ลง OS ใหม่ เมื่อเราจะ connect ไปเครื่องปลายทางเดิม ก็ถามแค่ password ก็พอ
10. FileZilla Client vs FTP CMD (Freeware)
จาก โปรแกรม 3CDaemon ที่ทำให้เครื่องเรากลายเป็น FTP server ถึงคราวเราต้องเป็น FTP client บ้าง โดยโปรแกรม FileZilla จะทำให้เรา connect ไป FTP server ได้ง่ายและเลือก Download/Upload ไฟล์ได้ตามใช้ชอบ แค่ click ลากไปมา ระหว่างเครื่องเรากับปลายทาง โดยตัวโปรแกรมรองรับการ pause ไฟล์ เพื่อมา resume download ต่อในภายหลังได้ และยังมีการ retry connecting ให้อีกด้วย แต่มันก็ไม่เหมาะเวลาที่จะเราทำการทดสอบ Failover อุปกรณ์ เนื่องจากตัวโปรแกรมมีระบบ resume ให้ ดังนั้นและเวลาเราจะทดสอบ failover / synchronization state full เราควรจะคำสั่ง FTP ผ่าน CLI ของ Windows นี้แหล่ะครับ ผมมันไม่มีระบบ resume / pause / retry connecting ใดๆ ทั้งสิ้น ถ้า State หลุด ก็คือหลุดเลย ดังนั้นเลือกใช้ให้เหมาะสมกันนะครับ
11. DU Meter (Cracked ware)
โปรแกรม นี้ขอบอกว่า จะได้ใช้แล้วจะไม่มีวันเลิกใช้ได้เลย เพราะมันจะบอกว่าตอนนี้ Bandwidth ของเครื่องคุณมีการ Upload/Download อยู่ที่เท่าไหร่แบบ Real-Time เลย อย่างเช่น ผมเล่น Internet อยู่ และสงสัยว่าตอนนี้ความเร็วในการ Download อยู่ที่เท่าไหร่ หรือ Upload ออกไปด้วยความเร็วเท่าไหร่ หรือบ้างทีเรา Copy ไฟล์เข้า-ออกเครืื่องเรา มันก็แสดงให้เห็นกันเลย ว่าความเร็วเท่าไหร่ โปรแกรมนี้ไม่มีการไป Modified หรือ Shaping ใดๆ เพียงแค่นำค่ามาแสดงเท่านั้น ซึ่งจะต่างกับพวก CfosSpeed ที่มีการทำ Qos Traffic ด้วย ลองใช้กันดูครับ มันช่วยให้เรารออย่างมีเป้าหมายได้ ไม่ได้รอเก้อ
โปรแกรม ที่ผมใช้ตั้งแต่เริ่มทำงานในสาย Network ถึงตอนนี้ก็มีอยู่ประมาณแค่นี้หล่ะครับ ช่วยให้ขีวิตเราง่ายขึ้นและเป็น Professional ขึ้นเยอะ เวลาเรานั่งทำงานแล้วมีคนมานั่งดูเราข้างๆ (ไม่ชอบเลย กดดัน) เราก็ชวนคุยไปครับ "พี่ๆ เคยใช้โปรแกรมนี้ไหม มันดีอย่างนั้น อย่างนี้" ผู้ฟังชอบครับ เพราะเขาจะรู้สึกว่า เราเป็นช่าง Engineer มี Tools เจ๋งๆ มาใช้ทำงานให้กับเขา และเราจะดูเทห์อีกด้วย
Blogger Comment
Facebook Comment